ปี 2020 ที่ผ่านมาเราต่างพูดถึงเรื่องของ New Normal แต่ในปี 2021 นี้ทุกสิ่งที่ดูเหมือนเป็นสิ่งใหม่กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้ว จะเรียกว่าเป็น Now Normal ก็ว่าได้ เพราะโควิด 19 ไม่ได้จางหายไป ซ้ำร้ายกลับกลายสายพันธุ์และทวีความรุนแรง จนผู้คนติดเชื้อง่ายขึ้น ชีวิตในวันนี้ของพวกเราจึงต้องผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์กันให้สมดุล ทั้งสองสิ่งยังต้องดำเนินคู่กันไปจะย้ายไปสู่การเป็นออนไลน์อย่างเดียก็ไม่ได้ และจากตรงนี้จึงทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วโลก กลายเป็น “เทรนด์ Hybrid” ไปโดยปริยาย
จาก “โลกาภิวัตน์” สู่ “โรคาภิวัตน์”
เราต่างหลงไปกับโลกทุนนิยมและเทคโนโลยีที่เรานิยามกันว่า “โลกาภิวัตน์” จนพวกเราต่างแอบลืมไปว่า ไม่ใช้แค่เทคโนโลยีเท่านั้นนะที่พัฒนาตัวเองไปแบบก้าวกระโดด กระจายไปสู่ผู้คนในทุกระดับชั้น ทุกประเทศทั่วโลก แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นและซ่อนตัวอยู่ในความเจริญเหล่านี้ก็พัฒนาและกระจายตัวไปสู่ผู้คนในสังคมทั่วโลกแบบแนบชิดด้วยเช่นกันนั่นคือ “โรค” ที่พัฒนาไปพร้อมกับการเจริญทางด้านวัตถุในโลกของเรา
ยิ่งสังคมโลกมีความทันสมัยมากขึ้นก็ยิ่งดูเหมือนว่า โรค ไวรัส และแบคทีเรียต่าง ๆ ก็มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วย ทุกสิ่งสะท้อนภาพให้เราเห็นได้จากไวรัส Covid 19 ที่กำลัง Disruption วิถีชีวิตผู้คนกันอยู่ในทุกวันนี้ ยิ่งมนุษย์ต่อสู้ ดูเหมือนเชื้อไวรัสก็ปรับตัวเองไปตามมนุษย์ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเช่นกัน จึงไม่มีใครยืนยันได้เลยว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิดจะเป็นความหวังได้จริง ๆ หรือไม่
โควิด ทำให้มนุษย์เราต่างต้องปรับตัวกันอย่างหนัก ทั้งเรื่องวิถีการใช้ชีวิต วิถีความเป็นอยู่ และวิถีแห่งการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการประกอบอาชีพทำธุรกิจ พวกเราปรับตัวต่อสู่กับโรคร้ายนี้ด้วยการ “หยุด” กิจกรรมที่ทำในโลกออฟไลน์ มามา “เคลื่อนไหว” กิจกรรมชีวิตบนโลกออนไลน์แทน นั่นคือ การใช้เทคโนโลยีแบบโลกาภิวัตน์ต่อสู้กับโรคาภิวัตน์ แต่ใครจะชนะก็ตอบยาก ศึกนี้ยังอีกยาวไกลนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้วิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของพวกเราในปัจจุบันกลายเป็น “เทรนด์ Hybrid” ไปแล้วแบบสมบูรณ์
เทรนด์ Hybrid ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของรถยนต์
ถ้าพูกถึงคำว่า “เทรนด์ Hybrid” เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงเรื่องรถยนต์ Hybrid ที่เป็นรถยนต์ที่ผสานเอาความเป็นรถยนต์ EV กับรถยนต์เครื่องสันดาปเข้าด้วยกันแน่ ๆ เลย แต่ใครบอกว่า Hybrid จะเป็นแค่เรื่องของรถยนต์เท่านั้น เพราะในโลกของความจริงวันนี้ ความเป็นไฮบริดเกิดขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของชีวิตพวกเราไปแล้ว
ในวันนี้ วิถีชีวิตของพวกเราที่เป็นมนุษย์สังคมเมือง เราต้องพยายามจัดสมดุลระหว่างความเป็นออฟไลน์และออนไลน์กันให้ลงตัว เพื่อที่จะเผชิญหน้าและอยู่กับไวรัสโควิดให้ได้ เราต้องออฟไลน์กันในยามที่จำเป็นจริง ๆ และต้องไปเน้นวิถีออนไลน์ให้มากขึ้น แต่เราก็จะไม่ทิ้งโลกออฟไลน์ไป เพราะมนุษย์เราอย่างไรก็เป็นสัตว์สังคม กิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ก็มิอาจตัดโลกออฟไลน์ออกได้จริง ๆ อย่างเช่น ธุรกิจขนส่ง ไม่ว่าจะสินค้า อาหาร และขนส่งทางอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำผ่านระบบออฟไลน์
แต่กิจกรรมบางส่วน อย่างการทำงาน การเรียน การประชุม หรือแม้กระทั่งกิจกรรมเพื่อความบันเทิงในชีวิตต่าง ๆ เราสามารถที่จะกระทำผ่านระบบออนไลน์ได้ แม้จะไม่ได้ตอบสนองความรู้สึกที่ลื่นไหลได้อย่าง 100% ก็ตาม แต่ก็ทำให้ชีวิตไปต่อได้แบบไม่มีสะดุด ไม่ต้องให้โควิดมาหยุดทุกสิ่งเอาไว้ จึงทำให้ เทรนด์ Hybrid ที่ต้องผสานความเป็น Offline และ Online เข้าไว้ด้วยกันกลายเป็น Now Normal ในวันนี้
ธุรกิจที่เติบโตไปกับไลฟ์สไตล์ไฮบริด
ในปี 2021 นี้เราคาดว่าเทรนด์ Hybrid ก็จะยังคงเป็นเทรนด์ในวิถีชีวิตของพวกเราต่อไป และแม้ว่าโควิดจะซาไป ไลฟ์สไตล์ของพวกเราก็จะยังคงเป็นรูปแบบนี้กันต่อไป เรียกว่าการใช้ชีวิตอยู่บนความเป็น Offline และ Online แยกไม่ออกจากชีวิตพวกเราอีกแล้ว แถมยังมีแนวโน้มว่าอีกหลาย ๆ ธุรกิจจะปรับตัวเข้ามาสู่ความเป็น Online มากยิ่งขึ้นด้วย
ซึ่งจากปี 2020 มาถึงปี 2021 นี้ เราจะพบว่า กลุ่มธุรกิจที่เติบโตได้แบบสวนทางสถานการณ์โควิดนั้น ล้วนเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งแพลตฟอร์มสำหรับการทำงาน การประชุม การเรียน อย่างเช่น Zoom, Microsoft Teams, Google Meet, Line กลุ่มธุรกิจเหล่านี้มูลค่าทางการตลาดโตขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
และที่ดูจะเติบโตที่สุดเลยก็คือ Zoom แพลตฟอร์ม Video Conference ที่ฮิตมาก ที่ล่าสุดมีแผนจะพัฒนาบริการด้าน Email และ ระบบปฏิทินเพิ่มขึ้นมา คาดว่าคงมีไม่กี่เดือนข้างหน้านี้คงจะเปิดให้ได้ใช้กัน ตรงนี้ดูเหมือนว่าทาง Zoom จะค่อย ๆ สร้าง Ecosystem ของตนเองเพื่อให้เกิดความครบถ้วนตอบโจทย์กับชีวิตติดเทรนด์ Hybrid นั่นเอง
ไม่เพียงกลุ่ม Video Conference เพื่อการประชุมงานเท่านั้น แต่เทรนด์ Hybrid ยังกระจายไปสู่กลุ่มธุรกิจ Event ที่ปรับตัวกลายเป็น Virtual Event การจัดงาน Hybrid Concert ขายตั๋วผ่านทางออนไลน์และรับชมผ่าน Live Streaming ซึ่งแรก ๆ ผู้คนก็ตั้งคำถามว่าจะได้เรื่องจริงเหรอ แต่ปรากฎว่าที่ผ่านมาก็ทำได้ดี และก็ขายตํ่วเข้าชมกันได้จริง ๆ และก็รายได้แบบไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่จะขาดไปไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยกลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับเทรนด์ Hybrid มาก ๆ ในตอนนี้และโตเร็วมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก็คือ กลุ่ม Video Streaming ยิ่งมีโควิดยิ่งกลายเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจนี้โตเร็วมากยิ่งขึ้น คนต้องอยู่บ้านมากขึ้นก็หันมาสนใจ ความบันเทิงบนออนไลน์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จะเห็นได้ว่าผู้ให้บริการ Video Streaming ทุกเจ้าในช่วงที่ผ่านมาต่างแข่งขันกันนำคอนเทนต์จำนวนมากมาลงไว้ในแพลตฟอร์มของตัวเอง เรียกว่าเข้าขั้นล้นทะลักกันเลยทีเดียว
คงไม่มีใครบอกได้ว่าโควิดจะจบลงอย่างไร จบลงตอนไหนและเมื่อไหร่ มนุษย์เราก็คงไม่รอคำตอบนั้นอีกแล้ว เพราะการปรับตัวให้ชีวิตติดเทรนด์ Hybrid แบบนี้ก็เป็นการประกาศแล้วว่า มนุษย์เราจะไม่อยู่นิ่งเฉย รอให้ไวรัสมากลืนกินพวกเรา แต่เราจะปรับตัวสู้กับมัน สู้จนถึงที่สุด ซึ่งเราก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านสู้กับวิกฤตครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง และผ่านมันไปได้อีกครั้งเหมือนเช่นที่เราผ่านวิกฤตต่าง ๆ มาได้เสมอ