เผลอไปแป๊บเดียวเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราก้าวผ่านเดือนแรกของปี 2022 กันไปแล้ว มีหลายสิ่งเปลี่ยนไป แต่ปัจจัยหลักเรื่องโควิดก็ยังคงอยู่ แม้ผู้คนจะปรับตัวกับเจ้าโรคระบาดร้ายนี้กันได้มากขึ้น แต่ถึงอย่างไรปัจจัยนี้ก็ยังส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและทำให้ภาคธุรกิจโฟกัสอะไรได้ยาก บางรายเพิ่งจะฟื้นตัวจากวิกฤต บางรายก็กำลังวางแผนจะเดินหน้ากับโครงการใหม่ ๆ แต่ทุกคนก็ล้วนไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ทำให้ปี 2022 นี้ยังคงเป็นอีกปีที่หาความชัดเจนและคาดการณ์ได้ยากกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงมีปัญหาที่ว่าหากจะทำการตลาดในปีนี้ ควรโฟกัสไปที่เรื่องใดดี เรามีคำแนะนำเป็นแนวทางในเรื่องนี้มาฝาก
ให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพ
จากความสับสนในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียนให้เราทุกคนได้เรียนรู้ว่า อะไรบ้างที่สำคัญกับเราจริง ๆ อะไรบ้างที่เราควรรักษาไว้และกระชับให้แน่นกว่าเดิม อะไรบ้างที่เราควรลด ละ เลิกและปล่อยออกไปบ้าง เพื่อให้ธุรกิจและองค์กรอยู่รอด การวางแผนการตลาดในตอนนี้จึงควรนำบทเรียนในช่วงที่มาเข้ามาปรับใช้ โดยให้ความสำคัญกับสิ่งที่ “จำเป็น” ไม่ว่าจะเป็น คน เทคโนโลยี หรือแพลตฟอร์ม เน้นในเรื่องประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการลงทุนมากกว่าปริมาณ ปริมาณไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่คุณค่าต้องแน่น เพราะนี่จะทำให้ธุรกิจยืนระยะต่อไปได้อีกยาวนาน ไม่ว่าจะมีวิกฤตเกิดขึ้นอีกหรือไม่
สนใจในเรื่องประสบการณ์ของลูกค้าให้มากขึ้น
ประสบการณ์ของลูกค้ายังคงเป็น Key ที่สำคัญในการทำการตลาดในช่วงนี้ และยังสำคัญต่อไปในอนาคตข้างหน้าด้วย ช่วงที่ผ่านมาพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้น ด้วยสถานการณ์บังคับ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปแบบถาวร ประสบการณ์การซื้อสินค้าและการรับบริการของลูกค้าจะเป็นแบบผสมผสานทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ แต่สัดส่วนของออนไลน์จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น หากที่ผ่านมาธุรกิจได้สร้าง Customer Experience ให้เกิดขึ้นแล้ว ก็จะละทิ้งเรื่องนี้ไม่ได้อีกต่อไป สิ่งนี้ควรจะต้องเป็นเรื่องที่ธุรกิจต้องโฟกัสและจัดอยู่ในแผนการตลาดที่จะต้องดำเนินต่อไป ไม่เพียงแต่จะต้องทำต่อแต่ยังจะต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมด้วยถึงจะเพียงพอ
แผนการตลาดต้องปรับให้มีความยืดหยุ่น
ในปีนี้ยังคงเป็นอีกปีที่ยังไม่มีความชัดเจนในหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องโรคระบาด และเรื่องของสภาพเศรษฐกิจสังคม เมื่อเป็นเช่นนี้การทำการตลาดจึงควรต้องปรับให้มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ควรตีกรอบที่ชัดเจนมากนัก วางแผนระยะสั้นเป็นทางออกหนึ่งที่ดี แต่ในแผนระยะสั้นนั้นก็ยังต้องมีความยืดหยุ่นภายในอีกชั้นหนึ่งด้วย เพราะงบประมาณทุกบาทที่จะลงไปในการทำการตลาดนั้นมีความสำคัญกับธุรกิจมากขึ้น สามารถวางแผนระยะยาวได้หรือไม่ ก็เป็นไปได้ถ้าเห็นช่องว่างทางธุรกิจเกิดขึ้น แต่แผนจะต้องเป็นแบบที่ยืดหยุ่นพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนได้ทุกสถานการณ์ อาจจะต้องมีการทำแผนสำรองไว้หลาย ๆ แผนเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ให้ได้
อย่าลืมโฟกัสไปที่การปฏิสัมพันธ์
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีความแน่นอน การให้ธุรกิจได้มีการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ นั้นเป็นเรื่องที่สมควรจะทำต่อไป เพราะในช่วงที่สถานการณ์เลวร้ายไม่ปกติอย่างไร ลูกค้าก็จะยังสัมผัสได้ว่า ธุรกิจยังคง “ใส่ใจ” ในตัวพวกเขา การปฏิสัมพันธ์ในที่นี้อาจไม่ใช่การขายของอย่างเดียว การให้ความรู้ ให้กำลังใจ ให้ประโยชน์ลูกค้าผ่านคอนเทนต์หรือการช่วยเหลือแบบต่าง ๆ ต่างหากที่ดียิ่งกว่า และเมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ ผ่านไปแล้วปฏิสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้ลูกค้าประทับใจและมีความภักดีกับธุรกิจต่อไป เพราะเหมือนเพื่อนที่ผ่านอะไร ๆ มาด้วยกัน
เหล่านี้เป็นประเด็นหลัก ๆ ที่ควรโฟกัสในการวางแผนการทำการตลาดในปีนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านกันบ้างไม่มากก็น้อย