เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันกลยุทธ์ Content Marketing เป็นสิ่งจำเป็นในการทำธุรกิจและการวางแผนการตลาด แต่ก็มีคำถามมากมายตามมาว่าคอนเทนต์ที่จะทำควรจะเป็นแบบไหนและอย่างไรดี หลายๆธุรกิจเลือกที่จะใช้การทำ Content Marketing แบบ Real time หรือจะเรียกอีกนัยยะหนึ่งก็คือ คอนเทนต์เกาะกระแส อาจจะเป็นข่าวหรือประเด็นอินเทรนด์ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ในช่วงนั้นๆซึ่งธุรกิจไหนที่ได้ลองทำดูแล้ว ก็จะพบว่ามัน “ไม่ประสบความสำเร็จ” ดังที่คาดไว้ ทั้ง ๆ ที่ฉวยโอกาสแล้วนะแต่ทำไมยังไม่สำเร็จอีก ลองมาวิเคราะห์กันดูดีกว่าว่าพลาดตรงไหน
คุณกำลังพยายามฝืนให้คอนเทนต์นั้นๆเป็นกระแสหรือเปล่า
ในโลกของธุรกิจและงานโฆษณา มักจะคุ้นเคยกันดีกับคำว่า “Tie in” ซึ่งการเชื่อมโยงการโฆษณาธุรกิจด้วย Content Marketing นั้น ก็จะใช้เทคนิคการ Tie in กันอยู่เสมอๆแต่การจะ Tie in ให้ได้ผลดีแบบไม่น่าเกลียดเกินไปก็ต้องดูบริบทเรื่องราวหรือประเด็นด้วยว่า ธุรกิจเราเข้ากับบริบทของเรื่องได้หรือเปล่า สิ่งที่ธุรกิจวันนี้เผชิญก็คือ เลือกที่จะทำ Content Marketing แบบ Real time หรือที่เราเรียกกันอีกแบบว่า Topical Content เป็นการหยิบประเด็นที่กำลังเป็นกระแสมาเกาะ โดยที่จริงๆแล้วประเด็นนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสอดรับเชื่อมโยงกับกับธุรกิจของตัวเองเลยแม้แต่น้อย พอทำออกมาจึงกลายเป็นคอนเทนต์ที่ดูฝืน คนอ่านคนชมก็ได้แต่หัวเราะ หึ ๆ และส่ายหัวถึงพยายามที่จะฝืนทำจนกลายเป็นเรื่องที่ตลกไป
ถามว่าทางแก้พอจะมีบ้างไหม ก็ยังพอมีนั่นคือ การใช้เทคนิคเล่าเรื่อง หรือ Storytelling เข้าช่วย เพราะแม้ว่าเรื่องราวประเด็นที่นำมาเหล่าอาจจะดูขัดๆหรือไม่เชื่อมโยงกับธุรกิจ แต่ถ้าผู้เล่ามีศิลปะการเล่าเรื่องที่ดี ก็สามารถที่จะทำให้เนื้อหากลมกลืนกันไปได้แบบไม่น่าเกลียดและไม่ดูฝืน แต่ทั้งนี้ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ไม่มีฝ่ายที่จะช่วย Storytelling ธุรกิจของตนเอง เนื่องจากเรื่องนี้จะใช้แค่นักการตลาดไม่ได้ จะต้องอาศัย Creative ด้วย ถึงจะทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่ดี แต่อย่างไรก็ดีต้นทุนในการผลิตคอนเทนต์แบบนี้ก็อาจจะสูงเกินไป ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกันก็ได้
ผิดที่ผิดเวลาไปหรือเปล่า
เมื่อพูดถึง Content Marketing แบบ Real time นั่นหมายถึงคอนเทนต์ที่อินเทรนด์ หรือคอนเทนต์ที่ทันกระแส แต่การจะเป็นคอนเทนต์แบบ Real time ที่ดีจริงๆจะต้องเป็นคอนเทนต์ที่ “นำกระแส” ไม่ใช่เกาะกระแสหรือตามกระแส ซึ่งคุณจะต้องแยกตรงนี้ให้ออกจากกันให้ได้ก่อน ปัจจุบันธุรกิจทั้งหลายได้เข้ามาทำคอนเทนต์แบบเกาะกระแส แต่ไม่ได้นำกระแส นั่นจึงทำให้ผู้อ่านผู้ชมไม่รู้สึกสนใจ เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่ประเด็นนี้ทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้าจะทำคอนเทนต์แบบ Real time จริงๆก็จงอย่าเลือกประเด็นผิดที่ผิดเวลา เลือกที่จะลงไปทำกับประเด็นนำกระแสดีกว่า แน่นอนว่าค่อนข้างยาก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะคุ้มค่ามากกว่าก็ได้ ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่คุณต้องไปพิจารณาดูว่าเป็นข้อบกพร่องด้วยหรือไม่
ใช่ว่าเรื่องอินเทรนด์ทุกเรื่อง จะเป็นประเด็นที่ควรทำ
ประเด็นร้อนๆของสังคม แม้จะเป็นกระแสที่คนสนใจแต่ บางเรื่องก็หมิ่นเหม่ และอาจอ่อนไหวเกินไป สามารถกระทบที่ผู้คน สถาบัน หรือสิ่งที่ไม่ควรพาดพิงก้าวล่วงก็ได้ แม้ว่าผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานจะสร้างคอนเทนต์ออกมาด้วยใจที่บริสุทธิ์เป็นกลางไม่ได้คิดอะไรก็ตาม แต่บางทีเราอาจมองไม่รอบด้านจนอาจมีบางจุดเล็กๆไปกระทบกับความรู้สึกของใครบางคน ผลงานอาจจะดังจริง และดังในข้ามคืนด้วย แต่ในทางกลับกันก็อาจจะดับได้ในข้ามคืนเช่นกัน Content Marketing แบบ Real time จึงต้องพิจารณาเรื่องนี้ด้วยว่า ประเด็นที่จะเอามาทำนั้น อ่อนไหวแค่ไหน เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกันแล้วว่า ดังได้ก็ดับได้เพียงคืนเดียว
คุณกำลังเสียตัวตนของคุณไปหรือไม่
การทำ Content Marketing ในแบบ Topical Content นี้จะมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เนื้อหามักจะเสื่อมค่าไปตามกาลเวลา นั่นจึงทำให้ผู้ที่ทำคอนเทนต์ต้องหาประเด็นที่สดใหม่มาป้อนลงทุกวัน ยิ่งทำก็ยิ่งเยอะยิ่งทำก็ยิ่งไม่หมด ทำไปทำมาหลงไปว่ากำลังทำอะไร เป้าหมายอยู่ที่ไหนกันแน่ แค่เพื่อความพอใจของ FC แต่ว่าเงินไม่มีเข้ามาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แล้ว ถ้าคุณไม่ได้เป็นบริษัทด้านการตลาดที่ต้องการให้คอนเทนต์ได้รับความนิยมและมีคนติดตามตลอด คุณต้องไม่ลืมจุดเริ่มต้นที่คิดจะทำคอนเทนต์ เราจะต้องใช้คอนเทนต์เป็นสะพานเชื่อมผู้คนให้ได้พลังมวลชนมาสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ นั่นคือเป้าหมายของเราใช่หรือไม่ และ Content Marketing ที่ดีก็ควรเป็นเช่นนั้นด้วย ตรงนี้จึงเป็นอีกสิ่งที่ต้องทบทวนให้ดี เพราะมีผลต่อต้นทุนธุรกิจของคุณแน่นอน
นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆของธุรกิจต่างๆ ที่เลือกใช้กลยุทธ์ Content Marketing แบบ Real time จึงอยากจะนำมาบอกเล่าวิเคราะห์กันให้เห็นกันไว้เป็นข้อคิดเตือนใจ ขอให้จำไว้ว่ายอด Like ยอดแชร์ มันไม่ใช่ของแท้ แต่ที่แน่ๆ เงิน คือ ของแท้ตลอดการสำหรับคนทำธุรกิจ ก่อนจะทำอะไรจึงต้องวางแผนกันดี