ยุคนี้เป็นยุคที่ Content Marketing มีอิทธิพลต่อ Google เป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้นยังมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเป็นอย่างมากอีกด้วย 99% ของธุรกิจออนไลน์ในวันนี้ล้วนมีการทำ Content ในแบบของตนเอง และนั่นทำให้เราเห็นว่า มีคอนเทนต์มากมายเกิดขึ้นมา คำถามก็คือ แล้วจะทำคอนเทนต์อย่างไรให้แบรนด์ของเรามีความแตกต่าง เคล็ดลับหนึ่งที่ธุรกิจระดับโลกทำก็คือ สร้างคอนเทนต์แบบ Story telling ทำคอนเทนต์เล่าเรื่อง สิ่งนี้จะช่วยให้คอนเทนต์เกิดความแตกต่างและน่าติดตาม
Story telling ช่วยให้ผู้บริโภคพบเจอแบรนด์ง่ายขึ้น
ในสภาวะที่โลกออนไลน์เต็มไปด้วยคอนเทนต์มากมายหลายรูปแบบ Search Engine ต้องรับข้อมูลคอนเทนต์มหาศาลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทั้งที่เป็นอักษร รูปภาพ VDO บทความในเว็บไซต์ สิ่งที่ผู้คนแชร์กันอยู่ในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, Twitter หรือแม้กระทั่งข้อความที่เป็นกระทู้ในเว็บบอร์ดอย่าง Pantip ทั้งหมด คือคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นผลพวงจาก Content Marketing ทั้งสิ้น เมื่อข้อมูลมีเยอะแบบนี้โอกาสที่ลูกค้าจะเจอคอนเทนต์ของเราและจะมาเจอแบรนด์ธุรกิจหรือสินค้าของเราก็ยากขึ้น แล้ว Story telling จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ได้อย่างไร
การทำคอนเทนต์แบบ Story telling ก็คือการทำให้คอนเทนต์มีคุณค่าและความแตกต่าง คุณอาจออกแบบมาเป็น Brand Story ทำให้แบรนด์มีเรื่องเล่าในแบบที่ไม่เหมือนใคร ดูน่าสนใจ ทำให้คนรู้สึกผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกับแบรนด์ผ่านเรื่องเล่าที่กล่าวถึงที่มาจุดเริ่มต้น หรือเหตุผลของแบรนด์ นอกจากนั้นอาจใช้ Story telling สร้างคอนเทนต์ที่ส่งมอบคุณค่าให้กับผู้บริโภคในอารมณ์ต่างๆอาจเป็นเรื่องเล่าตลกที่ทำให้อมยิ้ม หายเครียด หรือทำเป็นเรื่องที่ชวนฉุกคิดมีคุณค่ากับสังคม ปลูกจิตสำนึกใหม่ๆก็ได้
การดีไซน์คอนเทนต์ออกมาให้เป็นแบบ Story telling จะทำให้คอนเทนต์คุณเกิดความแตกต่าง แน่นอนทำครั้งเดียวอาจยังไม่เห็นผลอะไร แต่ถ้าทำซ้ำๆ บ่อยๆ ก็จะเกิดเป็นจุดสนใจ และอาจนำไปสู่การแชร์ต่อส่งต่อในโลกออนไลน์ และนั่นจะทำให้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเจอคุณในที่สุด
Story telling ดึงความสนใจได้แม้พฤติกรรมลูกค้าจะเปลี่ยนไป
อินเตอร์เน็ตและ Social Media นับเป็นปัจจัยใหญ่ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้เปลี่ยนไป พวกเขามักมองหาความแตกต่างหรือคุณค่าพิเศษจากแบรนด์ ซึ่ง Story telling สามารถทำให้แบรนด์ดูแตกต่างได้และสามารถใช้ส่งมอบคุณค่าที่แบรนด์อยากมอบให้ลูกค้าได้แบบครบจบได้ในกลยุทธ์เดียว เพียงแต่การ Story telling นั้นจะต้องพิถีพิถันต้องคิดเยอะขึ้นกว่าการทำคอนเทนต์ทั่วไป และแน่นอนว่าอะไรที่พิถีพิถันกว่าก็ย่อมมีคุณค่ามากกว่านั่นเอง
ที่กล่าวมาทั้งหมดคงทำให้คุณเห็นแล้วว่า Story telling มีคุณค่าและความสำคัญอย่างไร เคล็ดลับนี้ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะทำให้คุณหาลูกค้าและสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้นแล้ว ลูกค้าก็ไม่มีทางหลุดมือคุณไปอย่างแน่นอน