จากการที่อินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทำให้เราทุกคนในวันนี้ต่างมีตัวตนที่ชัดเจนขึ้น มีพื้นที่ในการแสดงออกทางความคิดมากขึ้น ผู้คนต่างสร้าง Story ของตนเองขึ้นมา แล้วก็แชร์แบ่งปันกันออกไปในโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนอยากรู้ อยากลอง อยากเลียนแบบหรือเข้ามามีส่วนร่วมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โซเชียลมีเดียจึงเสมือนเครื่องมือที่กระตุ้นความรู้สึกการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ สิ่งนั้นช่วยบ่งบอกว่าคนคนรุ่นใหม่มักจะมองหาความท้าทายใหม่ๆเสมอ ซึ่งการจะที่คุณจะนำเสนอสิ่งใหม่ไปหาผู้บริโภค จึงจำเป็นจะต้องอาศัยการ “Storytelling” หรือการเล่าเรื่องที่ดีเข้ามาช่วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยทำให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่คุณจะสื่อสารได้ง่ายขึ้น

ผู้บริโภคยุคนี้ ต่างแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ

เมื่อคุณทำธุรกิจและอยากจะนำเสนอสินค้ารวมถึงบริการใหม่ๆต่อผู้บริโภค การนำเสนอตรงๆผ่านโลกออนไลน์คงจะไม่ได้ผลดีนักในปัจจุบัน เพราะบนโลกออนไลน์ล้วนเต็มไปด้วยคอนเมนต์ที่มากมาย มากเกินกว่าที่ผู้บริโภคคนหนึ่งๆจะรับรู้ได้ในแต่ละวันที่ผ่านไป อิทธิพลของโซเชียลมีเดียมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เกิดคอนเทนต์จำนวนมาก ในสถานการณ์แบบนี้การจะนำเสนออะไรจึงต้องมีความแตกต่าง การสร้าง Story ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณจึงเป็นเรื่องจำเป็นขึ้นทันที เพราะถ้าคุณ Storytelling ได้ดีจะทำให้คุณเกิดความโดดเด่นขึ้นมา แม้ว่าคอนเทนต์ที่คุณนำเสนออาจะต้องมีการลงทุน จ้างทำบ้าง จ้างโปรโมทบ้างก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า คอนเทนต์ Storytelling จะช่วยคุณได้

เหตุผลที่คอนเทนต์ Storytelling จะช่วยทำให้คุณโดดเด่นเป็นที่รู้จักได้ก็คือ การนำเสนอคอนเทนต์ของคุณแตกต่าง สามารถที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ๆผ่านเรื่องราวให้พวกเขารู้สึกได้ว่า “มันง่าย” ทั้งเรียนรู้ง่าย เข้าใจง่าย และเข้าถึงง่าย เมื่อผู้บริโภครู้สึกถึงความง่ายในการเสพเนื้อหา พวกเขาก็จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่ตรงใจมากขึ้น ใช้เวลาเพียงแค่ครู่เดียวก็ได้ไอเดียใหม่ๆได้ความรู้สึกใหม่ๆที่เติมเต็มตนเอง และนั่นแหละคือสัญญาณว่าธุรกิจคุณกำลังจะไปได้สวย

 

ก่อน Storytelling ควรรู้จักจับพฤติกรรมผู้บริโภค

ก่อนที่คุณจะเล่าอะไรให้ใครฟัง สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ เราควรจะต้องรู้ก่อนว่าคนที่ฟังเป็นใคร เขาชอบฟังเรื่องแนวไหน บางคนเป็นคนชอบอะไรดราม่า ไปเล่าเรื่องขำ ๆ ก็คงไม่ถูกจริตกับเขา ส่วนบางคนเป็นคนตลกฮาๆจะเอาดราม่าไปยัดใส่อารมณ์เขาก็คงไม่ใช่ ก็เช่นกัน ถ้าคุณจะสร้าง Story ที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณออกมาแบบต่อเนื่องก็ควรจะจับพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ดีว่า พวกเขาน่าจะชอบเรื่องราวแบบไหน ถ้าคุณเข้าใจพวกเขาคุณก็จะ Storytelling ออกมาได้ตรงกับที่พวกเขาต้องการ นั่นเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ผู้บริโภคจะรู้สึกสะดุดกับคอนเทนต์ของคุณ พวกเขาจะยอมอ่าน ยอมฟัง และยอมเปิดใจที่จะดู และถ้าเนื้อหาการ Storytelling ดันไปตรงใจพวกเขาอีกด้วย คราวนี้ คุณก็จะผูกมัดใจผู้บริโภคคนนั้นๆไว้ได้เลยนั่นเอง

 

ขอให้คุณจับสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ให้ดี พวกเขาเปลี่ยนไปจากเดิมมาก อย่างเรื่องของอาหาร คนยุคนี้ก็ไม่ได้แค่กินเพื่อความอร่อย แต่พวกเขาต้องการประสบการณ์การรับรสใหม่ๆที่เต็มอิ่มกว่า ร้านอาหารหนึ่งร้านนอกจากของอร่อยแล้ว บรรยากาศร้านต้องดี การจัดจานต้องสวย สีสันของอาหารต้องฉูดฉาดและดึงดูด เราอาจเรียกได้ว่า ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการประสบการณ์การบริโภคแบบใหม่ คำถามสำคัญก็คือ แล้วธุรกิจคุณพร้อมจะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆแบบนี้ให้ลูกค้าหรือไม่ และถ้าคุณต้องการแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรเราขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นจากการ Present ธุรกิจของคุณผ่านการ Storytelling สิ่งนี้จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่จะทำให้คุณดูแตกต่างจากคู่แข่ง และดูน่าสนใจมากขึ้นในสายตาของผู้บริโภค