คุณคงได้รู้จักกับ storytelling กันไปแล้วว่าคืออะไร ทีนี้คุณคงเริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมครับว่า แล้วทำไมจะต้อง storytelling ด้วย ในเมื่อวิธีทำการตลาดก็มีเทคนิคอีกหลากหลาย แล้วเหตุใดจึงต้องมาจบลงตรงที่ Content Marketing ที่เป็น story telling กันด้วย

ธุรกิจส่วนตัวจะได้ใจผู้บริโภคยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

talks_to_watch_instead_of_shopping_1200x627

ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจส่วนตัวสาขาไหน หรืออยู่ในธุรกิจที่น่าสนใจอย่างไรก็ตาม เป้าหมายของคุณก็คือ “ขายของให้ได้” ถูกไหมครับ แต่คุณรู้ไหมว่า ผู้บริโภคยุคนี้ “ไม่ง่าย” อย่างที่คุณคิด ลูกค้าและผู้บริโภคทุกวันนี้พิถีพิถันในการเลือกซื้อเลือกใช้มาก เขาจะหาเหตุผลเสมอว่า

ทำไมต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการแบรนด์นั้นๆ

ลูกค้าทุกวันนี้คิดถึงเรื่องคุณค่าและความหมายของสินค้าและบริการกันหนักมาก พวกเขาไม่แค่สงสัยหรือตั้งคำถามว่าทำไมต้องซื้อสิ่งนี้ สิ่งนั้น แต่พวกเขาคิดลึกไปถึงว่า

“ทำไมต้องมีแบรนด์นี้” และ “ทำไมเจ้าแบรนด์ถึงจะต้องทำสิ่งนั้นออกมาขาย” กันเลยทีเดียว

เรียกง่ายๆว่าผู้บริโภคเขาพร้อมจะหาเหตุผลมาสนับสนุน การควักกระเป๋าจ่ายของเขาตลอดเวลาเลยครับ ดังนั้นตอนนี้ไม่ว่าคุณจะขายอะไรหรือมีธุรกิจที่น่าสนใจอย่างไร มีการวางแผนธุรกิจและหากลยุทธ์การตลาดที่เคยได้ผลในอดีตมาใช้ ก็ไม่ง่ายที่จะทำให้ลูกค้า “ซื้อ” คุณจะต้องมีเหตุผลมากพอที่จะในการมีตัวตนและการดำรงอยู่ของแบรนด์คุณ คุณจะโฆษณาแบรนด์ธุรกิจหรือโฆษณาสินค้าของคุณอย่างไรที่จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า “คุณมีความหมายมากพอ” ที่จะให้พวกเขาสนใจและต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างกับคุณ เรื่องน่าหนักใจแบบนี้จึงจำเป็นต้องใช้การตลาดเล่าเรื่อง หรือ story telling เข้ามาช่วย

การตลาดเล่าเรื่องอยู่ใกล้ตัวผู้คน

story telling หรือ การเล่าเรื่อง อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหม่ เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดแบบเน้นความรู้สึกที่ใช้กันมานานแล้วและเราทุกคนก็เสพและอยู่กับ story telling หรือ การตลาดเล่าเรื่อง กันมาโดยตลอดเลยด้วยครับ ลองดูไปรอบๆตัวคุณสิครับ สินค้าทุกชิ้นรอบๆตัวคุณที่เป็นของมียี่ห้อมีแบรนด์ต่างๆที่คุณซื้อมาใช้ส่วนหนึ่งก็เพราะอำนาจและบทบาทของ storytelling นั่นเอง ซึ่งคุณได้รับรู้เรื่องราวและเรื่องเล่าของแบรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจ ผ่านโฆษณาสินค้าไงล่ะครับ ไม่ว่าจะผ่านสื่อทีวี คลิปโฆษณาใน YouTube ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ป้ายโฆษณาออนไลน์ บทความโฆษณาในอินเตอร์เน็ต ทั้งหมดนี้เป็น storytelling ทั้งหมดเลย ที่เล่าเรื่องราวหรือชูจุดเด่นของแบรนด์ออกมาในรูปแบบต่างๆทั้งตัวอักษรบ้าง ภาพและเสียงบ้าง เห็นไหมครับว่าแท้จริงแล้ว Content Marketing แบบการตลาดเล่าเรื่อง อยู่รอบตัวเราตลอดเวลา และใกล้ตัวเราจนเราแทบมองไม่ออกและแยกไม่ได้ ที่สำคัญเชื่อมโยงผูกพันอยู่กับเราตั้งแต่เราตื่นจนเรานอนกันเลยทีเดียว

การตลาดเล่าเรื่องมีอิทธิพลต่อจิตใจผู้คน

telling-story01

ผู้คนชอบฟัง ชอบอ่าน ชอบดูเรื่องราวและได้รับอิทธิพลมากมายจากเรื่องเล่า และความจริงพวกเราทุกคนสามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ปะติดปะต่อระหว่างเรื่องนั้นเรื่องนี้จนกลายเป็นเรื่องราวได้ทุกคน การใช้เทคนิค storytelling สร้างเรื่องราวและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นผ่านตัวอักษรให้กับธุรกิจส่วนตัว จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ร่วมที่ดี และมีโอกาสซื้อใจผู้คนทำให้แบรนด์ธุรกิจส่วนตัวของคุณเป็นที่รู้จักได้เพียงชั่วข้ามคืน

คุณลองคิดในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งดูสิครับ เวลาคุณได้อ่านเรื่องราวอะไรดีๆที่น่าประทับใจสักเรื่อง คุณอยากแชร์ต่อ บอกต่อหรือเล่าต่อกับคนอื่นไหม หรือคุณได้ดูโฆษณาสินค้าที่กระแทกใจคุณสักชิ้น ผ่าน YouTube หรือทีวี คุณรู้สึกถึงอารมณ์ที่ดิ่งลึกอย่างไร เรื่องราวเหล่านั้นแหละครับทำให้เราที่อยู่ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งซึมซับเอาเรื่องราวของแบรนด์เข้าไปในตัวแบบไม่รู้ตัวเลย ผลสุดท้ายคืออะไรครับ(เราก็เสียเงินซื้อของเขาไปโดยไม่รู้ตัว ฮ่า ๆ )

ได้โฆษณาสินค้าและธุรกิจแบบมีประสิทธิภาพแต่ต้นทุนต่ำ

marketing-ad-

story telling ผ่านคอนเทนต์ตัวอักษรเป็นการโฆษณารูปแบบหนึ่งที่ดีมีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้ต้นทุนต่ำมีความเซ็กซี่ดูมีสไตล์กว่าใช้โฆษณาสินค้าผ่านบทความหรือคอนเทนต์ทั่วไป ได้ผลดีกว่าและถูกกว่าการโฆษณาทางทีวีหรือแบบมีเดียอื่นๆที่ความยาว 30 วินาทีแต่ราคาสูงเฉียดแสน

story telling ช่วยให้คุณบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ง่ายขึ้น

crm

อย่างที่ทราบว่า Content Marketing มีหลากหลายวิธี แต่การใช้วิธีแบบ story telling หรือการเล่าเรื่อง จะช่วยให้คุณสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น อย่างถ้าคุณมีโปรโมชั่นใหม่ บอกลูกค้าตรง ๆ อาจทำให้พวกเขารู้สึกว่าคุณกำลังยัดเยียดการขายให้กับพวกเขา ทำให้การขายอาจไม่ได้ตามเป้า ทีนี้ลองเปลี่ยนใหม่ว่าวิธีบอกพวกเขาด้วยการใช้ Content Marketing แบบเท่ๆโดยการเล่าเรื่องให้พวกเขาฟัง ทำให้พวกเขาคล้อยตามคุณก็จะสื่อสารกับพวกเขาได้ง่ายขึ้นแล้วครับ ที่สำคัญถ้าคุณอยากรู้ว่าโปรโมชั่นใหม่ ที่ออกมาได้ผลหรือไม่ คุณสามารถเช็ค Feedback ของลูกค้า จากผลการตอบรับเรื่องเล่าที่คุณบอกพวกเขาไปได้ด้วยนะครับ

เห็นไหมครับว่า storytelling หรือ การตลาดเล่าเรื่อง มีพลังต่อการทำธุรกิจในวันนี้ขนาดไหน นี่คือเครื่องมือช่วยขยายความน่าสนใจของแบรนด์และสินค้าของคุณ ทำให้แบรนด์และสินค้าของคุณมีคุณค่าและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ฉะนั้น สิ่งที่คุณจะเล่าให้ลูกค้าฟังจึงมีความสำคัญมาก จงเตรียมพร้อมให้ดี เพราะสิ่งนี้มีความหมายและน้ำหนักมากพอที่จะช่วยสนับสนุนให้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น และ เราทีมงาน incontent.co ช่วยคุณได้